ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมก่อสร้างมีความคึกคักมาก ทั้งการก่อสร้างในส่วนของโครงการภาครัฐ ที่มีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ในกรุงเทพฯและปริมณฑล การก่อสร้าง และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอื่น อาทิ การขยายโครงข่ายถนนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และและการปรับปรุงโครงสร้างทางรถไฟโดยเปลี่ยนมาใช้รางที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและใช้หมอนคอนกรีตแทนหมอนไม้
ส่วนการก่อสร้างของภาคเอกชน ก็มีการเติบโตออกไปยังภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ เนื่องจากกิจกรรมเศรษฐกิจของภาคเอกชนขยายตัวไปในต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการเติบโตของการค้าและการลงทุน เช่น อุดรธานี สุราษฎร์ธานี และเชียงราย เป็นต้น แม้ว่าการขยายตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้างจะหนุนให้กลุ่มผู้รับเหมาปรับตัวดีขึ้น แต่ก็กลับสร้างแรงกดดันและนำมาซึ่งอุปสรรคให้แก่ผู้ประกอบการ เช่น การเติบโตของโครงการก่อสร้างหลายโครงการในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน มีผลกระตุ้นให้ราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะวัสดุก่อสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะปูนซีเมนต์ เนื่องจากอุปสงค์สินค้าวัสดุก่อสร้างขยายตัว นอกจากนี้ยังทำให้ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนกำลังแรงงานเพิ่มขึ้น
สำหรับทิศทางตลาดก่อสร้างบ้านปี 2557 ยังเป็นโอกาสและถือเป็นช่วงขาขึ้น สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านที่เน้นบุกตลาดในภูมิภาคหรือต่างจังหวัดเป็นหลัก เนื่องเพราะความนิยมของผู้บริโภคที่หันมาเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น กอปรกับปัญหาขาดแคลนแรงงานและค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการรายย่อยๆ ประสบปัญหา และไม่อาจรับงานสร้างบ้านได้โดยตรงกับผู้บริโภค นอกจากนี้ ทิศทางการขยายตัวของการลงทุน ทั้งของกลุ่มทุนขนาดใหญ่และขนาดกลางออกไปในภูมิภาค ส่งผลให้มีการโยกย้ายถิ่นอาศัยของคนในเมืองหลวงออกไปสู่ภูมิภาค และคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในเมืองหลวง ก็มีการย้ายกลับภูมิลำเนาเดิมเพราะมีการจ้างงานและได้ค่าจ้างไม่ต่างกัน ทำให้ความต้องการบ้านหรือที่อยู่อาศัยเพิ่มตามมา ทั้งบ้านหลักแรกของคนทำงานรุ่นใหม่ และบ้านหลังที่สองของนักธุรกิจที่ขยับขยายการลงทุนออกไปในต่างจังหวัดทุกภูมิภาค
แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะยังเป็นปัจจัยหรือตัวแปรสำคัญ ที่มีผลกระทบต่อกำลังซื้อของกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านที่อาจชะลอตัวลง รวมทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศที่ชะลอตัว อันเนื่องจากภาคการส่งออกและภาคการผลิตที่ปรับตัวลดลง แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านที่มีการปรับตัวมาก่อนหน้านี้หลายๆ ด้าน และผู้ประกอบการกลุ่มวัสดุที่แตกไลน์มาสู่ธุรกิจรับสร้างบ้านรายใหม่ๆ พร้อมร่วมกันเปลี่ยนตลาดรับสร้างบ้านจากเดิมมุ่งทำตลาดอยู่เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลไปสู่การขยายตลาดออกไปได้ทั่วประเทศ ทำให้ปริมาณและมูลค่ารวมตลาดรับสร้างบ้านสร้างบ้านขยายตัวได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมๆ กับมีการนำระบบการก่อสร้างสำเร็จรูปจากโรงงานผลิต หรือนำระบบการก่อสร้างระบบแห้งมาใช้มากขึ้น ซึ่งอาจจะมีต้นทุนที่สูงกว่าการใช้แรงงานแบบเดิมๆ แต่สามารถผลิตหรือสร้างบ้านได้จำนวนหน่วยมากขึ้น ที่สำคัญสามารถควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคได้เป็นที่พอใจ ทั้งหมดเป็นเหตุผลสนับสนุนว่าตลาดรับสร้างบ้านในปี 2557 จะยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่องจากปีที่แล้ว